ส.ว.อุตรดิตถ์"พีระศักดิ์ พอจิต" เฉียดตาย-"หลวงพ่อโกศัย"ช่วย
เครื่องรางของขลัง หลายคนบอกว่าไม่เชื่อ แต่ไม่ลบหลู่ แต่หลายคนก็เชื่อ หลังจากประสบเหตุการณ์รอดตายมาอย่างเฉียดฉิว ก็เคารพนับถือกราบไหว้ และนำมาขึ้นคอคล้องประจำกาย
"พีระศักดิ์ พอจิต" หรือ "อัยการอ๋อง" สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อุตรดิตถ์ เคยประสบกับเหตุการณ์เฉียดตายมาแล้ว เชื่อว่ามาจากการนับถือ และคล้องหลวงพ่อโกศัย วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ รุ่นแรก ปี 2497 เนื้อทองคำ ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาว จ.แพร่
ปัจจุบันอายุ 46 ปี เป็นชาว อ.เด่นชัย จ.แพร่โดยกำเนิด แต่ปัจจุบันพาครอบครัวลงหลักปักฐานที่อุตรดิตถ์ ที่บ้านเลขที่ 279 ม.10 ต.ท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ ตำแหน่งสุดท้ายก่อนลงสมัคร ส.ว.อุตรดิตถ์ คือ อัยการพิเศษประจำกรม ช่วยราชการสำนักงานอัยการจังหวัดอุตรดิตถ์ สมรสกับ นางพิณทอง พอจิต มีบุตร 3 คน น.ส.พัฐศรา, น.ส.พัณศยา, ด.ช.พิชณุตม์
จบการศึกษา นิติศาสตรบัณฑิต ม.รามคำแหง, เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมกฎหมายแห่ง เนติบัณฑิตยสภา, ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต(รัฐศาสตร์) ม.รามคำแหง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.) และชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
เริ่มรับราชการปี 2530-2532 อัยการประจำกองกรมอัยการ, 2532-2538 อัยการจังหวัดผู้ช่วยสำนักงานอัยการ จ.อุตรดิตถ์, 2538-2542 รองอัยการจังหวัดสำนักงานอัยการ จ.อุตรดิตถ์, 2542-2547 อัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการ จ.อุตรดิตถ์, 2547-2549 อัยการพิเศษประจำกรม สำนักงานอัยการ จ.อุตรดิตถ์ 17 ปีที่ทำงานอยู่อุตรดิตถ์ ช่วงนี้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานด้านยุติธรรม สาธารณรัฐประชาชนจีน ปี 2543, มาเลเซียปี 2547, ด้านการศึกษา สหรัฐอเมริกา ปี 2548, ด้านงานยุติธรรม สาธารณรัฐประชาชนจีน ปี 2549
นอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยนเรศวร, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดอุตรดิตถ์, ที่ปรึกษาสหกรณ์การเกษตรเมืองอุตรดิตถ์ จำกัด, ประธานคณะอนุกรรมการ การจ่ายเงินค่าตอบแทนตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จ.อุตรดิตถ์
ก่อนลงรับสมัคร ส.ว.อุตรดิตถ์ เคยลงสมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 ครั้งนั้นพ่าย แต่วันที่ 19 เมษายน 2549 ตัดสินใจลงรับสมัคร ส.ว.อุตรดิตถ์ อีกครั้ง ได้รับเลือกด้วยคะแนน 100,846 คะแนน อยู่ในอันดับคะแนนสูงสุดที่ 19 ของประเทศไทย และเป็นอัยการคนเดียวที่สอบผ่านครั้งนี้
แม้งานจะยุ่งแค่ไหนยังทำตัวสบายๆ เวลาว่างก็ร่วมงานกับชุมชน ซึ่งจะเห็นได้จาก การเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้จัดการทีมฟุตบอลคนหลวง จ.อุตรดิตถ์, ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย มูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์ (มอส.) จ.อุตรดิตถ์, ประธานชมรมศิษย์เก่ารามคำแหง จ.อุตรดิตถ์
ส.ว.พีระศักดิ์ กล่าวว่า เป็นคนที่ชอบสะสมพระเครื่องอยู่แล้ว และตัวเองก็เป็นชาว จ.แพร่โดยกำเนิด หิ้งพระที่บ้านมีหลวงพ่อโกศัยมากกว่า 10 องค์ จึงนำมาขึ้นคอ 1 องค์ ทำไมถึงต้องนำมาขึ้นคอ เนื่องจากประสบกับเหตุการณ์เฉียดตายด้วยตัวเอง โดยเมื่อครั้งมารับราชการเป็นพนักงานอัยการประจำสำนักงานอัยการ จ.อุตรดิตถ์ ใหม่ๆ ยังไม่มีบ้านพัก จึงต้องเดินทางไปกลับแพร่-อุตรดิตถ์ทุกวัน
"วันที่ 23 พฤษภาคม 2532 หลังเลิกงานก็ขับรถยนต์ส่วนตัวที่ออกใหม่มุ่งหน้ากลับบ้าน จ.แพร่ แต่พอถึงบ้านห้วยลากปืน ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ เกิดฝนตกหนักถนนลื่น ประกอบกับถนนมีสภาพคดเคี้ยวมาก บังคับรถไม่อยู่ รู้ตัวว่ารถยนต์เสียหลัก ขณะนั้นได้นึกถึงคุณแม่ และลูกสาวคนโตตอนนั้นอายุ 2 ขวบ ขณะนี้ศึกษาอยู่ที่ คณะนิติศาสตร์ ปี 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในคอก็คล้องหลวงพ่อโกศัย ให้คุ้มครอง และปลอดภัย จึงปล่อยพวงมาลัย หาทางป้องกันตัวเอง รถยนต์ตกเขา 100 เมตร พลิกคว่ำนับรอบไม่ถ้วน"
ขณะรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ จำได้ว่ารู้ตัวตลอดเวลา เมื่อรถยนต์ตกถึงตีนเขาแล้ว ก็อยู่ในสภาพหงายท้อง กระจกแตกทุกด้าน สภาพรถยนต์ไม่ต่างไปจากเศษเหล็ก พร้อมทั้งค่อย ๆ คลานออกจากรถยนต์ด้วยสภาพเสื้อผ้าขาดไม่มีชิ้นดี ไม่มีบาดแผลเลยแม้แต่แห่งเดียว ชาวบ้านที่ประสบกับเหตุการณ์นำส่งโรงพยาบาล แพทย์บอกว่าไม่เป็นอะไรมาก เพียงแค่ฟกช้ำดำเขียวเท่านั้น พักอยู่ที่โรงพยาบาล 3 วันก็หายเป็นปกติ
"หลังจากผมรอดตายครั้งนั้นมา เชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของพุทธคุณของหลวงพ่อโกศัย เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ จ.แพร่ แต่พอได้บ้านพักก็พักอยู่ที่อุตรดิตถ์ จนลงหลักปักฐานเป็นชาวอุตรดิตถ์จนถึงปัจจุบัน ก่อนนำมาขึ้นคอ จะยกองค์หลวงพ่อโกศัยขึ้นเหนือศีรษะ ภาวนาให้ปลอดภัย ทุกครั้งที่เดินทางทั้งใกล้และไกลก็จะนึกถึงหลวงพ่อโกศัยเสมอ"
บารมีของหลวงพ่อท่าน ทำให้ผมเป็นคนดี ทำให้ผมตั้งใจทำหน้าที่ของพนักงานอัยการจังหวัดดีที่สุด เช่นเดียวกับหลังจากได้รับเลือกเป็น ส.ว.อุตรดิตถ์แล้ว ผมก็ยังนับถือหลวงพ่อท่านตลอดเวลา ผมตั้งใจจะทำหน้าที่เพื่อบ้านเมืองให้ดีที่สุด
ให้สมกับเป็นตัวแทนของชาวอุตรดิตถ์ เข้าไปทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้
ที่มา:http://www.palungjit.com/
|