หลังจากนั้น ประมาณ 2 วัน มีการติดต่อเพื่อขอซื้อพระองค์นี้ ในราคา สองหมื่นกว่านิดหน่อย พร้อมกับมีการสอบถามเรื่องการตัดสิน เรื่องของการพิจารณา การติดรางวัล ซึ่งผมเองขอแจ้งเอาไว้ ณ ที่นี้ ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินโต๊ะนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ตอนที่ส่งพระก็ไปส่งที่หน้าโต๊ะเหมือนคนอื่นๆ ทุกคน กรรมการที่โต๊ะ1 ชวนไปช่วยตัดสิน แต่ไม่ได้ไป โดยอ้างว่า "ผมส่งพระโต๊ะนี้ ขี้เกียวให้คนอื่นเขาด่า ไม่อยากเป็นขี้ปากเขา" พี่ตัดสินได้เลยเต็มที่
สุดท้ายพระองค์นี้ ติดที่ 1
หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ น่าจะเป็นวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2554
ลูกค้าที่ซื้อพระองค์นี้ไปโทรมาแจ้งว่า "ขอคืน" เพราะนำไปส่งงานประกวดฯ ที่กรุงเทพฯ กรรมการไม่รับ บอกว่า "พระเก๊" ผมจึงตอบว่า "ผมยินดีรับคืน" ทันทีที่ได้เสียงปลายสายจบประโยค โดยไม่ลังเล ตอนนั้นบรรยากาศทุกอย่างยังอยู่ในระดับที่ปกติจนเมื่อได้ยิน ประโยคที่บอกว่า
"เล่นพระนี่เขาเข้าใจ เพราะต้องเล่นพรรคพวก ถ้าเป็นพระของพวกนี้ พวกอื่นจะบอกเก๊ จะบอกแท้ก็แต่ของพรรคพวกกันเอง"
และ
"ไม่ต้องกลัว ผมไม่ไปบอกใครหรอก รู้กัน 2 คน"
จะบอกว่ารู้น้อยไปสิครับ ผมหรือที่ต้องอาย เล่นพระแท้จะอายทำไมครับ คนที่ใส่ไฟให้พระแท้ กลายเป็นพระเก๊ต่างหากทที่ตต้องอาย และจะบอกให้นะครับ ถ้าเล่นพระแท้ ไม่ต้องมีพรรคพวกหรอกครับ มีแต่เพื่อนทั้งนั้นใครก็อยากเป็นเพื่อนด้วย
ถ้ามีคำว่าพรรคพวก แล้วจะอ้างกันว่า "มาตรฐานสากล" ไปทำไม คำนี้เอาทิ้งถังขยะไปดีกว่า อย่าอ้างกันให้เสียเวลาเลย
|