เหรียญครูบาก๋งรุ่นแรก ออกที่วัดต้นฮ่าง อ.ท่าวังผา เมื่อปี2514 โดยในปีนั้นที่วัดต้นฮ่างได้จัดงานฉลองพระวิหาร จึงดำหริจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเพื่ออุปการะคุณผู้ที่ร่วมทำบุญ ทางวัดจะจัดสร้างเหรียญครูบาดอนตันขึ้นจะเห็นว่าเป็นการไม่สมควรเพราะในขณะนั้นที่วัดดอนตันได้จัดสร้างเหรียญรุ่นแรกครูบาดอนตันอยู่แล้ว จึงพิจารณาดูแล้วว่ายังมีเกจิของท่าวังผาที่เก่งไม่แพ้ครูบาดอนตันเลยคือครูบาก๋ง เมื่อเห็นสมควรดังนั้นจึงขออนุญาตครูบาก๋งจัดสร้างเหรียญรุ่นแรกขึ้น โดยปลุกที่วิหารวัดต้นฮ่างโดยมีครูบาดอนตัน ครูบาก๋ง ครูบาวงศาภิวัตร ครูบาสุเทพวัดชนะไพรี ฯร่วมกันปลุกเสก (คนที่เคยใกล้ครูบาก๋งกล่าวว่าเหรียญรุ่นนี้ตอนที่ครูบาก๋งได้ไปร่วมปลุกเสกเหรียญครูบาดอนตันรุ่นแรกนั้น ครูบาก๋งได้นำเหรียญใส่ถุงย่ามไปร่วมปลุกเสกด้วย ) จากนั้นได้มอบให้กับวัดต้นฮ่าง เพื่อมอบให้กับผู้ที่มาร่วมทำบุญฉลองพระวิหาร โดยส่วนใหญ่แล้วเหรียญุรุ่นนี้ถูกแจกให้กับคณะผ้าป่าจากกรุงเทพที่มาร่วมงาน ดังนั้นเหรียญรุ่นนี้จะไม่ค่อยพบในพื้นที่เลย เป็นเหรียญทองแดงรมดำทั้งหมด จัดสร้างไม่เกิน 1000 เหรียญ ถือว่าจัดสร้างน้อยมาก(เป็นเสน่ห์ของพระเมืองน่านที่สร้างน้อย) และเหรียญสภาพรมดำเดิมๆนั้นที่เห็นตามสนามที่พอจะประกวดได้ เท่าที่เห็นนั้น มีไม่เกิน10เหรียญ นอกนั้นจะเป็นสภาพใช้เสียส่วนใหญ่เพราะที่ท่าวังผานั้นคนรุ่นก่อนๆบอกไว้เสมอว่าถ้าหาเหรียญครูบาดอนตันไม่ได้ให้หาเหรียญครูบาก๋ง
เมื่อช่วงปี2514-2518 นั้นเมื่อครูบาดอนตันและครูบาก๋งได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น โดยช่วงระหว่างปี2514-2518นั้นวัตถุมงคลที่ครูก๋งจัดสร้างขึ้นนั้น มีเหรียญรุ่นแรกออกวัดต้นฮ่างปี14 พระเนื้อผงปี14 รูปหล่อโบราณปี15 เหรียญวัดศรีมงคลปี 15 เหรียญระฆัง รุ่นธนูไฟปี2518 และผ้ายันต์อิติปิโส 108 ปี18 จากนั้นท่านก็ไม่ได้จัดสร้างพระเหรียญหรือเนื้อผงขึ้นอีกเลย(ยกเว้นผ้ายันต์แจกงานโดดร่ม) เพราะหลังจากปี2518นั้นชื่อเสียงของครูบาดอนตันเป็นที่รู้จักมากขึ้นและเป็นช่วงที่มีการจัดสร้างวัตถุมงคลของครูบาดอนตันขึ้นหลายรุ่น เนื่องจากครูบาก่งท่านนับถือครูบาดอนตันมากๆท่านไม่อยากจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นไปแข่งกับครูบาดอนตัน หลังจากที่ครูบาดอนตันมรณะภาพ ปี2523 พระเกจิของท่าวังผาก็เหลือแต่ครูบาก๋งและทางลูกศิษย์จึงขออนุญาติครูบาก๋งจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นอีกครั้งนับตั้งแต่เหรียญรุ่นธนูไฟปี18 คือเหรียญครูบาก๋งหลังเจ้าหลวงภูคา ปี2526 เนื้อทองแดงรมดำและกะไหล่ทอง และต่อมาได้จัดสร้างเหรียญเจ้าหลวงภูคารุ่นแรกปี28 โดยมีครูบาก๋งเป็นผู้ปลุกเสกและยังมีพระผงและเหรียญอีก3-4รุ่นที่ได้มีการจัดสร้างขึ้น จนปี2532ท่านก็มรณะภาพ เครื่องรางที่ท่านทำไว้ตอนมีชีวิตอยู่นั้นที่เด่นๆคือ ยันต์หนีบ ยันต์ 108 ผ้ายันต์ดาบหลี๋กั๋นจัย ครูบาก๋งท่านไปเรียนวิชากับครูบาญาณธาดา(ครูบาบ้านแหลง อดีตเจ้าคณะแขวงปัว)และเกจิประเทศลาวซึ้งท่านธุดงไปเรียนวิชาอยู่บ่อยๆครับ
ประวัติครูบาก๋ง
เดิมท่านชื่อว่า พรมา นามสกุล ไชยปาละ บิดาชื่อ นายธนะวงศ์ มารดาชื่อ นางอูบแก้ว ท่านเกิดเมื่อวันที่ 4 เดือนเมษา 2445 ณ บ้านดอนมูล ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน
การศึกษา
ครูบาท่านได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนประชาบาลบ้านดอนมูล จนจบชั้นปีที่ 3 และได้ศึกษาหนังสือไทยล้านนาและไทยกลางที่ วัดดอนมูล
บรรพชาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2459 แล้วอุปสมบทเมื่ออายุ 21 ปี แต่ท่านต้องไปคัดเลือกทหาร โดยครูบาท่านตั้งสัตย์ไว้ว่าถ้าคัดเลือกได้ทหารก็จะขอรับใช้ชาติตลอดไปแต่ถ้าไม่ได้คัดเลือกเป็นทหารก็จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุตลอดชีวิต แล้วท่านก็ไม่ได้รับคัดเลือกเป็นทหาร วันต่อมาวันที่ 8 เมษายน 2466 ครูบาท่านจึงอุปสมบทที่วัดดอนมูล แล้วท่านก็ขอลาครูบาอาจารย์เพื่อจะเดินออกธุดงค์ตามป่าเขาโดยครูบาก๋งนั้นท่านเดินธุดงค์จากน่าน เชียงราย เชียงตุงแล้ววกกลับมาทางเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่แล้วปฏิบัติธรรมในป่าช้าถึง6ปี
ต่อมาทางคณะศรัทธาบ้านก๋งทราบข่าวว่าท่านมาธุดงค์แถวนี้จึงขอนินมต์ท่านมาประจำที่วัดบ้านก๋ง เพราะวัดบ้านก๋งนั้นไม่มีพระอยู่เลย เมื่อท่านมาอยู่ที่วัดนี้แล้ว ท่านก็ทำนุบำรุงศาสนา จนท่านได้รับการแต่งตั้งหลายอย่าง จนเป็นที่นับถือชาวบ้าน
เมื่อท่านอายุ 87 ปี ครูบาท่านเริ่มป่วยเพราะความชราภาพ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2532 ครูบาก๋งได้เรียกผู้ใกล้ชิดและลูกศิษย์ พร้อมทั้งสั่งไว้กับพระอาจารย์มนตรีไว้ว่าขอมอบสังขารไว้ที่วัดศีรมงคล(วัดบ้านก่ง )
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ปี2532 เวลา 01.30 น. ครูบาท่านก็จากไปด้วยอาการสงบ เหลือไว้แต่คุณงามความดีที่ท่านได้ทำไว้ รวมสิริอายุ 87 ปี 66 พรรษา