วันนี้ (27 ก.ย.51) นายสหวัฒน์ แน่นหนา ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ กรมศิลปากร เปิดเผยว่า นักโบราณคดีสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขึ้นสำรวจองค์พระธาตุดอยสุเทพ ตามแผนงานโครงการทางวิศวกรรมพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา บนดอยสุเทพมีฝนตกชุกมาตลอด เพิ่งจะหยุดตกไม่กี่วันที่ผ่านมา เกรงว่าชั้นใต้ดินขององค์พระธาตุฯ จะอุ้มน้ำไว้มาก ทำให้เกิดความชื้นของน้ำระเหยเข้าไปในองค์พระธาตุฯ กับรอยปริแตกของแผ่นทองจังโกชั้นนอกห่อหุ้มองค์พระธาตุฯ ที่เกิดก่อนหน้านี้น้ำฝนได้ไหลเข้าไปในองค์พระธาตุฯ จะไม่มีช่องทางระบายออก
นายสหวัฒน์ กลjาวว่า ทางนักโบราณคดีได้ตั้งนั่งร้านองค์พระธาตุฯ ใช้เครื่องมือทางวิศวกรรมเปิดสำรวจองค์พระธาตุฯ พบว่า มีการกรุแผ่นจังโก 2 ชั้น ชั้นนอกเชื่อมแผ่นจังโกติดกันทั้งหมด ชั้นในไม่มีการเชื่อม ใช้วิธีโบราณโดยตอกตะปูสังฆวานร ยึดแผ่นติดกับองค์พระธาตุฯ เมื่อคณะทำงานเปิดแผ่นจังโกออก พบว่าองค์พระธาตุฯ ฉ่ำไปด้วยความชื้น ผิวฉาบปูนขาวใช้สร้างองค์พระธาตุฯ เปื่อยยุ่ยเป็นผงละเอียด หลุดเป็นเนื้อดิน เหมือนกับดินน้ำมันนำมาปั้นเป็นรูปได้ ตะปูไม่สามารถยึดกับองค์พระธาตุฯ แต่อยู่ได้ด้วยการโอบรัดโดยจังโกเป็นกรอบรัดไว้ โดยผู้เชี่ยวชาญภาควิศวกรรมโยธา ม.เชียงใหม่ สรุปสาเหตุมาจากที่ตั้งองค์พระธาตุฯ ปูด้วยกระเบื้องทั้งหมด น้ำใต้ดินดันขึ้นมาจนเกิดการอุ้มน้ำขังไว้นาน และรอยแตกทองจังโกชั้นนอกที่น้ำฝนไหลซึมเข้าไป ทำให้ปูนและอิฐ ซึ่งเป็นตัวอุ้มน้ำได้อย่างดี จึงไม่มีทางระบายออก
ผอ.สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังท่านเจ้าคุณพระเทพวรสิทธาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ ให้รับทราบถึงปัญหาองค์พระธาตุฯ แล้ว ต้องเร่งบูรณะเป็นการด่วน หากปล่อยไว้เกรงว่าองค์พระธาตุฯ จะทรุดตัวหรือพังลงมาได้
อย่างไรก็ตาม สำนักศิลปากรที่ 8 เชียง ใหม่ และภาควิศวกรรมโยธา ม.เชียงใหม่ จะเสนอการแก้ไขปัญหาบูรณะอย่างเร่งด่วนต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมา จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 1 ต.ค.นี้