คุณค่าที่ยังคงมีอยู่ ยังไงก็ยังคงมีอยู่ หากองค์นั้นเป็นอุปคุต ของวัดพระสิงห์ปี 2512 จริง เนื้อพระที่มีอายุถึงสี่สิบปี คงปรากฏเป็นข้อเท็จจริงให้เห็นโดยไม่ต้องมีข้อโต้แย้งใดๆ
แต่เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน อุปคุต ทั้งเนื้อเก่า เนื้อใหม่ ผสมปนเป จนทำให้เกิดการสับสนขึ้นในปัจจุบัน พระเนื้อใหม่ทั้งหลายที่ปรากฏขึ้นในปัจจุบัน เอะอะ ก็อ้างเป็นของวัดพระสิงห์ปี 2512 กันหมด แล้วเกิดอะไรขึ้น
เนื่องจากประวัติมิได้มีการจดบันทึกไว้ให้เป็นหลักฐานอ้างอิง คนรุ่นเก่า ณ เวลานั้น ถึงเวลานี้ สี่สิบปี คงห่างหายตายจากไป มิเหลืออะไรให้พอจะอ้างอิงไว้อย่างเด่นชัด แถมทรงพิมพ์ก็คล้ายกัน ทั้งอุปคุตวัดพระสิงห์ปี 2512 ทั้งอุปคุตต่างๆที่อ้างเป็นของวัดพระสิงห์ปี 2512 รวมทั้งที่อ้างเป็นพระใสปี 2505 ของวัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย หรือแม้แต่จะอ้างเป็นของที่นั่นที่นี่
มองดูแล้ว ล้วนแต่อ้างออกมาลอยๆ อย่างไม่มีหลักฐานอ้างอิงอย่างเด่นชัด แต่สิ่งที่อ้างออกมาเหล่านี้ คงประสบปัญหาให้กับผู้ที่มองความแตกต่างของเนื้อโลหะไม่ออก ว่าเนื้อโลหะที่เก่าสี่สิบปี ควรจะมีเนื้อหาเช่นไร ในทางตรงกันข้าม สำหรับผู้ที่พอมองเนื้อโลหะออก ก็จะทราบได้เอง ว่าเป็นพระเก่าที่มีอายุถึงสี่สิบปีหรือเป็นพระใหม่ ที่เป็นพระแท้ยุคหลัง หรือก็ไม่แน่แม้แต่จะเป็นพระสร้างเสริมขึ้นมาเองก็น่าจะมีอยู่มิใช่น้อย
เหล่านี้ได้ส่งผลต่อคุณค่าทางประวัติศาสตร์ให้หายไป หากยังมองเนื้อพระโลหะไม่ออก ก็ควรจะสอบถามจากผู้ที่รู้จริง ดูออกถึงความเก่าใหม่ได้ มิใช่แค่เห็นทรงพิมพ์ ก็ตีเป็นอุปคุตของวัดพระสิงห์ปี 2512 กันเสียหมด อันส่งผลกระทบตามที่เห็นในปัจจุบัน
ดังเช่นพระที่ลงโชว์ในกระทู้นี้ ท่านว่าเนื้อพระของท่านมีอายุถึงสี่สิบปีหรือไม่ ดีหน่อยตรงที่ท่านมิได้อ้างว่าเป็นอุปคุตของวัดพระสิงห์ ปี 2512 มิฉะนั้นคงต้องมีคนขอให้เวปมาสเตอร์ลบกระทู้นี้ออกอย่างแน่แท้ เพราะพระที่ลงโชว์ในกระดานนี้ ต้องการความถูกต้อง เป็นจริง เท่านั้น
ดูตามตัวอย่างที่เคยผ่านตาในเวปต่างๆ ที่อ้างเป็นพระใส ของปี 2505 หากพิจารณาให้ถ่องแท้ เนื้อพระน่าจะมีอายุแค่ปีหรือสองปีเท่านั้นเอง เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ เมื่อยังไม่มีหลักฐานอ้างอิงอย่างเด่นชัด จึงควรเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพิจารณาถึงความเก่าของเนื้อพระเป็นสำคัญ เพื่อให้ได้มาซึ่งความถูกต้อง ความแท้จริง จะได้เกิดความไม่สับสน
เทียบได้กับพระสมเด็จวัดระฆัง ใครที่มองถึงความเก่าของพระเนื้อผงออก ก็จะรู้ได้เองว่า ใครๆที่พากันอ้างเป็นสมเด็จวัดระฆัง ความจริงมันไม่ใช่ ก็เท่านั้นเอง
มาถึงตอนนี้ในวันนี้ ผมเห็นหนังสือพระเล่นหนึ่งที่วางขายในห้าง เอาสมเด็จวัดระฆังปลอม มาขึ้นปกซะอย่างงั้น ช่างสับสนกันสิ้นดี ใครที่มองออก ก็ได้แต่ปลงอยู่ในใจ |