การเคารพชาติ,ศาสนา,พระมหากษัตริย์
ชาติคือสิ่งที่ทุกคนต้องรักและเทิดทูน เพราะเป็นสิ่งซึ่งแสดงถึงความเป็นเอกราช เป็นอิสระและความปลอดภัยในชีวิต ทุกคนจึงรักและหวงแหนชาติของตน คนไทยรับรู้เรื่องชาติของเราได้จากประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี สัญลักษณ์อีกอย่างที่สำคัญของชาติ คือ ธงชาติ ธงชาติเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของชาติในการติดต่อกับประเทศอื่น ๆการร้องเพลงชาติก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความยึดมั่น ความผูกพัน ความภาคภูมิใจที่มีต่อประเทศชาติของตนการเคารพชาติและธงชาติคนไทยแสดงความเคารพธงชาติด้วยการยืนตรง เมื่อได้ยินเสียงเพลงชาติและ พูดถึงชาติในลักษณะที่ยกย่องไม่ลบหลู่ดูหมิ่นชาติของตนศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชาติ ศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีมี ศีลธรรมมีเมตตาต่อกันทุกคนควรให้ความคารวะซาบซึ้งในพระธรรมคำสั่งสอน เพราะชาติใดไม่มีศาสนา ชาตินั้นจะถูกทำลายได้ง่ายศาสนาจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการช่วยชาติให้อยู่รอดปลอดภัยมารยาทในการแสดงความเคารพศาสนาทำได้ดังนี้๑. ทำบุญตักบาตรตามกำลังความสามารถ โดยเฉพาะในวันสำคัญทางศาสนา๒. เมื่อเข้าในโบสถ์วิหาร ต้องถอดรองเท้า และนั่งสำรวมไม่พูดคุยเสียงดัง๓. เห็นพระพุทธรูปในวัด ควรทำความเคารพด้วยการไหว้หรือกราบ๔. เห็นพระภิกษุ สามเณร ควรจะเคารพ ไม่ลบหลู่ดูหมิ่น๕. เวลาพระเทศน์ ควรตั้งใจฟังอย่างสำรวม๖. ควรสวดมนต์ได้บ้าง๗. กราบพระก่อนนอนทุกคืน พร้อมระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์การแสดงความเคารพต่อพระภิกษุ พระพุทธรูป หรือพระรัตนตรัย ตามประเพณีนิยมแล้วมีเพียงแบบเดียวคือ กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ เว้นแต่สถานที่นั้นไม่ควรแก่การกราบ เช่น ที่พื้นในยานพาหนะการแสดงความเคารพ ปฎิบัติได้ดังนี้๑. การไหว้ ในกรณีเช่นนี้จะต้องไหว้ในลักษณะนอบน้อม นิ้วหัวแม่มือจรดหน้าผาก๒. การหมอบกราบ ทำดังนี้๑) หมอบเก็บเท้า๒) มือประณมตั้งบนพื้น๓) ก้มศีรษะลงไปให้หน้าผากจรดสันมือ ๔) คว่ำมือทั้งสองลงกับพื้น๕) ยกมือทั้งสองขึ้นในท่าประณมพร้อมทั้งยกศีรษะขึ้นด้วย๖) ทำเช่นนี้ ๓ ครั้ง๗) นั่งตรง ยกมือไหว้จรดหน้าผากอีกครั้งหนึ่งการกราบพระที่ถูกต้องจะต้องกราบ แบบเบญจางคประดิษฐ์เสมอ การกราบแบบนี้ หมายถึงให้ส่วนของร่างกายทั้ง ๕ ส่วนจรดพื้น หน้าผาก ๑ ,มือ ๒ ,เข่า ๒พระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของปวงชนชาวไทย พระองค์ทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคนไทยทุกคน ประเทศชาติจะดำรงอยู่ก็เพราะมีองค์พระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจในการต่อสู้กับอริราชศัตรู ในการรักษาเอกราชของประเทศ หรือการพัฒนาประเทศให้เจริญยิ่งขึ้นธงมหาราช เป็นธงประจำตัวของพระองค์ เวลาพระองค์เสด็จ ธงนั้นจะปักอยู่หน้ารถพระที่นั่ง และเพลงสรรเสริญพระบารมีเปรียบเสมือน สัญลักษณ์แทนตัวพระองค์ ฉะนั้น คนไทยทุกคนควรทำความเคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์ ดังต่อไปนี้๑. ยืนตรงทำความเคารพ พระมหากษัตริย์ พระราชินีพระโอรสพระธิดาหรือตัวแทนพระองค์ชายถวายคำนับ หญิงถอนสายบัว๒. เมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมีทุกครั้ง ให้ยืนตรงทำความเคารพ อย่างสุภาพและระวังตรงหันหน้าไปทางพระองค์หรือพระบรมฉายาลักษณ์ หรือองค์ประธานของงาน หรือยืนหันไปทางเสียงที่ได้ยินยืนจนจบเพลง ถ้าเป็นการบรรเลงที่ปรากฏพระองค์ ต้องถวายความเคารพเมื่อเห็นพระองค์ครั้งหนึ่ง เมื่อจบเพลงให้ถวายความเคารพอีกครั้งหนึ่งแล้วนั่ง หรือเคลื่อนที่ไปแล้วแต่กรณี๓. ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีได้๔. เทิดทูนพระองค์ในทุกโอกาส๕. ตั้งรูปของพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระโอรส พระธิดา ไว้ในที่สูงการถวายคำนับ ปฏิบัติดังนี้๑) ถ้าแต่งเครื่องแบบและสวมหมวก ให้ยืนตรงแล้วกระทำวันทยาหัตถ์๒) ถ้าไม่ได้สวมหมวก ให้ยืนตรงหันหน้าไปทางพระองค์ท่านแล้วถวายคำนับ โดยให้ก้มศีรษะและส่วนไหล่ลงช้า ๆ ต่ำพอควรกระทำครั้งเดียว แล้วยืนตรงอย่าผงกศีรษะเร็วเกินไปหมายเหตุถ้าสวมหมวกอื่นที่ไม่ใช้เครื่องแบบต้องถอดหมวกแล้วยืนตรงหันไปทางพระองค์แล้วถวายคำนับการถอนสายบัว ปฏิบัติดังนี้๑) ยืนตรง เท้าชิด หันหน้าไปทางพระองค์ท่าน๒) ชักขาข้างใด ข้างหนึ่งไปทางหลัง โดยวาดปลายเท้าไปทางอีกด้านหนึ่งของขาที่ยืนพร้อมกับย่อเข่าอีกข้างหนึ่งลงช้า ๆ๓) เมื่อจวนต่ำสุด ให้ยกมือทั้งสองขึ้นวางประสานกันบนหน้าขาซ้ายที่ย่อต่ำลงให้ค่อนไปทางเข่า๔) ก้มศีรษะต่ำลงเล็กน้อย เงยศีรษะขึ้นพร้อมกับชักขากลับที่เดิม แล้วยืนและตั้งเข่าให้ตรง การถวายบังคม เป็นการถวายความเคารพพระมหากษัตริย์และพระบรมราชินี ตามประเพณีตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน กระทำได้ทั้งหญิงและชาย มีวิธีปฏิบัติแบบเดียวกันท่าเตรียม นั่งคุกเข่า ปลายเท้าทั้งสอง ตั้งลงยันกับพื้นนั่งทับลงบนส้นเท้า สำหรับชายให้แยกเข่าห่างกันประมาณ ๑ คืบ สำหรับหญิงให้แยกเข่าเล็กน้อยพองามตั้งตัวตรงยกอกขึ้น อย่าห่อไหล่หรือยกไหล่วางมือทั้งสองคว่ำลงบนหน้าขาทั้งสองข้างนิ้วมือทุกนิ้วแนบชิดสนิทกันการถวายบังคมมี ๔ จังหวะ คือจังหวะที่ ๑ ยกมือขึ้นประณมตรงระดับทรวงอก ให้ปลายนิ้วตั้งตรงระดับปลายคางจังหวะที่ ๒ ทอดแขนพร้อมมือประณมหันไปข้างหน้า ให้ปลายมือต่ำลงแต่ไม่ห้อย ปลายนิ้วมืออยู่ระหว่างระดับท้องโน้มตัวลงตามมือเล็กน้อยจังหวะที่ ๓ วาดมือขึ้นจรดหน้าผาก ให้หันแม่มืออยู่กลางหน้าผาก ลำตัวเฉพาะเหนือเอวขึ้นไป เอนไปข้างหลังชายเอนมากกว่าหญิง เงยหน้าให้อยู่ระดับ ๔๕ องศา แต่ไม่ถึงกับหงายหน้า ให้ตาอยู่ระดับนิ้วหัวแม่มือระดับของลำตัวในขณะที่มืออยู่ระดับจรดหน้าผากจะต้องเอนเล็กน้อย แต่ไม่ใช่เอนจนหงายหรือแหงนแต่คอท่าเอนนี้ลำตัวจะโค้งด้วยเล็กน้อย ศอกจะกางออกจังหวะที่ ๔ ลดมือลงพร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้า วาดแขนและมือลงในระดับช่วงเข่า ปลายมือต่ำยกปลายมือขึ้นในท่าประณม ปลายมือตั้งขึ้น พร้อมกับเลื่อนมือขึ้นสูงระดับอก และยกตัวขึ้นตรงทำเช่นนี้จนครบ ๓ ครั้ง แล้วลดมือลงในระดับอก เบนปลายนิ้วจากทรวงอกลงแบบอัญชลีแล้วจึงปล่อยมือวางที่หน้าขาตามเดิม แล้วเปลี่ยนจากท่านั่งเป็นท่าหมอบ
ที่มา : BLOGGANG
แล้วจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟังครับ....พี่น้องน่าเศ้รา
เยี่ยมครับท่าน....