ประวัติวัดหนองเงือก

ในปีกุน พ.ศ. ๒๓๗๑ (ตรงกับสมัยร.๓)โดย นายใจ โยมพ่อของครูบาอุปะละเป็นผู้นำชาวบ้านไปอาราธนา ครูบาปาระมี  เกจิอาจารย์ผู้แก่กล้าจากเมืองยอง(ผู้สร้างวัดฉางข้าวน้อยใต้) มาเป็นประธานการก่อสร้างและเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก มีครูบาอุปะละศิษญ์ผู้อุปฐากใกล้ชิดเป็นเจ้าอาวาสรูปที่๒จากนั้นก็มีลูกศิษย์เป็นเจ้าอาวาสสืบทอดกันมาโดยลำดับจนกระทั่งถึงหลวงปู่ครูบาญาณะ หลวงปู่ครูบาพรหมและหลวงปู่ครูบาวัยโดยลำดับ

ศาสนะวัตถุที่สำคัญและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดหนองเงือก

วัดหนองเงือก มี

หอไตร๒ ชั้น ชั้นบนทึบ ก่ออิฐถือปูนทั้งหลัง แตกต่างจากที่พบทั่วไปในภาคเหนือ เป็นศิลปะแบบพม่า ปัจจุบันถูกปิดตาย เจาะช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ สำหรับใช้บันไดพาดขึ้นไป

พระบรมธาตุเจดีย์  ศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติการสร้างน่าอัศจรรย์ดังนี้

ในปีพ.ศ.๒๕๖๗ ท่านครูบาพ่อเป็ง โพธิโก( พ่อของครูบาพรหมา  พฺรหฺมจกฺโก วัดพระพุทธบาทตากผ้า ) ครูบาอินทจักร อินฺทจกฺโก (พี่ครูบาพรหมา) ครูบาพรหมา และครูบาคำ คมฺภีโร ได้เดินางมาปฏิบัติธรรมที่วัดร้าง ณ.ป่าหนองเจดีย์ โดยมีชาวบ้านหลายตำบลมาร่วมปฏิฐัติธรรมและช่วยกันสร้างเสนาสนะพร้อมอุโบสถชั่วคราวจนแล้วเสร็จ แต่ยังขาดพระประธานจึงได้พากันขุดค้นรอบๆบริเวณนั้นซึ่งเป็นวัดร้างมาก่อน กระทั่งพ่อน้อยเมือง พิมสาร ได้ขุดพบโกษฐดินเผาบรรจุพระแก้วมรกตองค์ใส ๑ องค์และพระบรมสารีริกธาตุ ๑๐๑ องค์ ทำให้คณะศรัทธาดีใจรีบนำพระทั้งหมดสรงน้ำอบน้ำปรุงอย่างดีและนำไปประดิษฐานไว้ที่กุฏิชั่วคราวของครูบาพ่อเป็ง เพื่อร่วมกันสักการะบูชา ปรากฎว่าพอตกดึกกลางคืนนั้น พระบรมสารีริกธาตุก็เกิดปาฏิหารย์เสด็จออกลอยเป็นแสงดวงกลมๆมากมายและเสด็จออกทุกคืน และมีศรัทธาประชาชนพากันหลั่งไหลไปดูกันจำนวนมากจนข่าวลือสะพัดไปไกล กระทั่งท่านครูบาพ่อเป็งและครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า(พระลูกชาย) เริ่มเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากอาจจะมีผู้มาลักชิงเอาไป หรือผู้มีบารมีจะมานำพาไปประดิษฐานที่อื่นหรือครอบครองเป็นสมบัติส่วนตัว ท่านจึงรีบนำพาพระแก้วและพระบรมสารีริกธาตุทั้ง ๑๐๑ องค์ไปถวายครูบาขัตติยะที่ วัดป่าเหียง แต่ครูบาขัตติยะกลับแนะนำให้ไปถวายครูบาญานะ(แสน) วัดหนองเงือกซึ่งยังไม่มีพระเจดีย์ ท่านทั้งหลายจึงรีบนำมาถวาย ครูบาญาณะท่านก็รีบรับไว้ด้วยความยินดีพร้อมทั้งเร่งลงมือก่อสร้างเจดีย์บบรรจุ  ระหว่างนั้นมีปรากฏว่ามีผู้ร้ายทั้งมาลักขโมยและจะเข้าชิงหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ  ต่อมาไม่นานเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ผู้ครองนครลำพูน ส่งคนมาอาราธนาครูบาญาณะ(แสน)ไปสอบถามโดยอยากจะอัญเชิญพระแก้วและพระบรมสารีริกธาตุไปสักการะแต่หลวงปู่ครูบาญาณะท่านบรรจุลงพระเจดีย์ไปแล้ว

พระธาตุและพระแก้วนี้ศักดิ์สิทธิ์มากในวาระสำคัญๆหรือมีผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอำนาจฌาณสมาบัติสูงอัญเชิญก็จะปรากฏอภินิหารเสด็จมาให้เห็นทันที  ในปัจจุบันหลวงปู่ครูบาศรีวัยท่านอัญเชิญเสด็จบ่อยครั้งดังปรากฏในภาพที่บันทึกไว้ ล่าสุดท่านเสด็จในขณะที่หลวงปู่ครูบาศรีวัยทำการอธิฐานจิตรูปหล่อรุ่นแรกที่ปลุกเสกมาตั้งแต่วันเสาร์ห้าจนถึงพญาวันผู้เขียนเป็นคนบันทึกไว้ได้เองโดยการอธิษฐานจิตในอำนาจแห่งสมาธิก่อนถ่ายว่า หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้มาร่วมอนุโมทนากับรูปหล่อรุ่นแรกของหลวงปู่ครูบาศรีวัยนี้ ขอท่านให้ปรากฏด้วยพอลั่นชัตเตอร์เสร็จท่านทั้งหลายก็ปรากฏบนหน้าจอทันที หลายคนที่อยู่ข้างผู้เขียนเห็นแล้วขนลุกไปตามๆกัน  และเมื่อหลวงปู่ฯท่านปลุกเสกเสร็จผู้เขียนได้เรียนถามท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้  หลวงปู่ฯได้กรุณาตอบว่า ได้อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ลงประสิทธิด้วยทุกครั้งที่ปลุกเสก

ประวัติการสร้างวัตถุมงคล

- เหรียญรุ่นแรก เป็นเหรียญทองแดงรมดำรูปไข่ สร้าง ๕๐๐ เหรียญเมื่อปีพศ.๒๕๑๕.

- ล็อคเก็ตรุ่นแรก มีศิษย์สร้างถวาย เมื่อฉลองอายุ ๗๒ ปี พ.ศ. ๒๕๔๘

- พระรอดจิ๋วเกศา ศิษย์สร้างถวายในวาระเดียวกับล็อคเก็ต

- ประคำ มหาวิมุตติ สร้าง ๒๐๐ เส้น ในปีพ.ศ.๒๕๕๒

- รูปหล่อเล็กรุ่นแรก สร้าง ๕๐๐ องค์ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓

  (ปลุกเสกตั้งแต่วันเสาร์๕จนถึง พญาวัน)

-ตะกรุดหนุมานคลุกฝุ่น สร้าง ๑๐๘ ดอกหลังรูปหล่อเล็ก