พระล้านนาดอทคอม แหล่งรวมพระเครื่องเมืองเหนือ
ร่วมด้วยจ้วยกั๋นผ่อ

คนเหนือเข้าจะอธิบายให้คนไม่ค่อยมีวิชาในเรื่องนี้กระจ่างแจ้งหรือปล่าวนะ


คนเหนือเข้าจะอธิบายให้คนไม่ค่อยมีวิชาในเรื่องนี้กระจ่างแจ้งหรือปล่าวนะ

   
  แบบว่าถ้าศิลป์นี้มาละก็ใช่เลย...หรือว่าเราต้องมาพิจารณาเนื้อพระก่อนหรือปล่าวนะ  
     
โดย : artongza   [Feedback +0 -0] [+0 -0]   Tue 18, Nov 2008 19:06:01
 




 
 
โดย : artongza    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 1 ] Tue 18, Nov 2008 19:06:57





 
 
โดย : artongza    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 2 ] Tue 18, Nov 2008 19:28:42

 
ผมไม่ใช่คนเหนือ และต้องออกตัวก่อนว่าดูพระแก้วจุยเจีย กรุฮอดไม่เป็นซะด้วย...แต่ที่แน่ๆผมเชื่อว่าคงไม่มีใครเข้ามาให้ความกระจ่างหรือเข้ามาฟันธงเป็นแน่แท้...เพราะถ้าพลาด...กลัวงานเข้าครับ (ฉบับแก้ไข)  
 
โดย : น้ำมนต์    [Feedback +14 -0] [+0 -0]   [ 5 ] Tue 18, Nov 2008 21:46:55

 

ผมคนเชียงใหม่ ไม่ฟันธงหรอกครับ แต่จะให้ข้อคิดจะดีกว่า

พระแบบนี้เขาเรียกว่าแก้วหล่อ บางคนจะเรียกเป็นบุศ เป็นมรกต อะไรก็ช่างตามสี แต่สิ่งที่เขาเรียกไม่ว่าเป็นบุศ หรือมรกต เป็นหินครับ ลองถามคนจบธรณีวิทยาได้

พระแบบนี้ถูกหล่อด้วยความร้อน ขึ้นมาเป็นองค์พระ แล้วใช้ของที่มีความคม แกะลายเส้น เป็นหน้า เป็นตัว เป็นขา มักไม่ค่อยมีพระสวยให้เห็น เปิดกรุทีก็มีเพียงไม่กี่องค์ ชำรุดเสียหายง่ายมาก กว่าจะหาดูได้สักองค์ โคตรยากครับ

แต่ไม่รู้เป็นอะไร เจ็ดแปดปีย้อนหลัง มีเพียบ มีจนผมยังง ออยากได้ปางอะไรแบบไหน มีขายให้หมด แล้วท่านทั้งหลายว่าไงหล่ะครับ

ยิ่งขนาดห้อยคอไม่คอมเม้นดีกว่า คิดเอาเองครับ คนชอบเล่นก็เล่น ไม่ชอบเล่นก็ถอย แค่นั้นเองที่อยากจะบอก

 
โดย : Tae    [Feedback +37 -0] [+0 -0]   [ 7 ] Tue 18, Nov 2008 22:37:19

 
เห็นด้วยกับพี่เต้ครับ ของแบบนี้อยู่ที่ความชอบครับ
 
โดย : สยามอาร์ต    [Feedback +6 -0] [+0 -0]   [ 8 ] Wed 19, Nov 2008 00:04:35

 

คงหายข้องใจในระดับหนึ่ง เพราะมีGURUมาให้ข้อคิดดีๆ หากย้อนหลังไปช่วง 1-2 ปีก่อน ในเวปU มีเรื่องขัดแย้งจนเวปเดือดกับพระแบบนี้กันมารอบหนึ่งแล้วครับ...

 
โดย : น้ำมนต์    [Feedback +14 -0] [+0 -0]   [ 9 ] Wed 19, Nov 2008 05:03:41

 

เข้าใจได้ในระดับหนึ่งเลยครับ แต่ไม่ทราบว่ามีประวัติการเปิดกรุไหมว่าเปิดเจอเมื่อไร

ไม่ต่อยมีลงหนังสือเรื่องพระกรุนี้เลย

 
โดย : artongza    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 10 ] Wed 19, Nov 2008 22:14:25

 
กรมศิลปากรได้ค้นพบพระเจดีย์ทุกวัดในเมืองฮอดเพื่อนำพระพุทธรูปและโบราณวัตถุทั้งหมดที่ขุดพบมาเก็บไว้เนื่องจากการสร้างเขื่อนภูมิพลเสร็จน้ำจะท่วมเมืองฮอดทั้งหมดในครั้งนั้นทางการได้ขุดพบพระแก้วมากที่สุดและ
เป็นการขุดค้นพบพระแก้วครั้งใหญ่ที่สุด
แร่หินสีเหลืองที่นำมาสร้างพระแก้วนี้เข้าใจว่าจะนำมาจากประเทศลังกาและจีนหินเขี้ยวหนุมานที่เนื้อดีน้ำงามที่สุดที่เรียกกันว่าจุ๊ยเจียประกายแห่งพลังคนจีนโบราณถือกันว่าแก้วขาวจุ๊ยเจียสามารถป้องกันสิ่งชั่วร้ายต่อต้านอาถรรพณ์ต่างๆ
ได้ด้วยใยพระแก้วของกรุเมืองฮอดที่ขุดได้จากกรุเจดีย์ตามวัดหลายแห่งในเขตอำเภอฮอดที่พบมากจะมีพระแก้วเนื้อสีขาวและเนื้อสีเหลืองที่ทางการได้ขุดค้นรวบรวมไว้รวมทั้งชาวบ้านได้ขุดค้นกันในระยะต่อมามีจำนวนมากพอสมควรมีขนาดใหญ่มีขนาดหน้าตัก 3 นิ้วเศษขนาดเล็ดสุด0.5 นิ้วพระแก้วของกรุเมืองฮอดที่ยังพอมีเป็นงานสร้างศิลปะด้วยวัตถุที่มีค่าที่น่าศึกษาและควรเก็บอนุรักษ์ไว้เพราะเป็นงานแกะที่ทำด้วยฝีมือของสกุลช่างเมืองฮอดแท้ๆการสร้างพระแก้วต้องใช้ทักษะ และความสามารถในการวางรูปแบบที่สูงมากเป็นการสร้างที่ทำยากกว่าการหล่อพระพุทธรูปหรือทำพระเครื่องด้วยดินเผามากพระแก้วของกรุเมืองฮอดเข้าใจว่าช่างแกะด้วยกันหลายคนเพราะแต่ละองค์มีฝีมือทำได้งดงามมากมีปางสมาธิและปางมารวิชัยปางยืนก็มีบ้างแต่ละองค์มีรูปแบบในศิลปะเชียงแสนมีอายุราวพุทธศตวรรษที่21-22 อันเป็นยุคทองของเชียงใหม่ที่พุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์กำลังเจริญรุ่งเรืองในเมืองเชียงใหม่นอกจากพระแก้วที่ขุดพบแล้วยังพบพระเจดีย์แก้วบรรจุพระบรมธาตุอีกหลายองค์รวมทั้งรูปสัตว์เช่นช้างกวางหมอบนกคุ้มและภาชนะเครื่องใช้สอยจำลองขนาดเล็กอีกจำนวนมาก สันนิษฐานว่าขณะนั้นนิยมสร้างแต่พระแก้วรวมทั้งเครื่องใช้สอยจำลองอันเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาด้วยความศรัทธาต่อสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยที่เมืองโบราณแห่งอื่นจะพบกรุพระแก้วเพียงแห่งละองค์เท่านั้นเข้าใจว่าจะเป็นพระแก้วของเจ้านายหรือบุคคลชั้นสูงสร้างขึ้นเข้าใจว่าเป็นพระชัยวัฒน์ประจำตัวหรือสร้างทำขึ้นใน
พิธีบวงสรวงศาสนา


พระแก้วกรุเมืองฮอดจะพบในหลายวัดด้วยกันเช่นวัดหลวงฮอดวัดศรีโขงวัดเจดีย์สูงวัดดอกเงินและ
วัดสันหนองฯลฯ
แต่กล่าวโดยรวมได้ว่าที่กรุวัดศรีโขงเป็นกรุที่พบพระแก้วมากที่สุดเพราะเป็นกรุใหญ่มากเมืองฮอดเป็นเมืองโบราณของอาณาจักรล้านนา
(ปัจจุบันเป็นอำเภอฮอด)ตัวเมืองเก่าตั้งอยู่ที่บ้านวังลุงพงศาวดารโยนกชี้ว่าเมืองนี้คือท่าเชียงทองศูนย์กลางของเมืองคงอยู่ที่วัดหลวงฮอดในอดีต
พระนางจามเทวีได้นำไพร่พลขึ้นมาสร้างเมืองลำพูนได้แวะพักที่ริมแม่น้ำปิงก่อน
ได้สถานที่แห่งนี้เป็นทำเลดีจึงได้สร้างเมืองขึ้นชื่อเมืองฮอดในปี.. 1203 ได้สร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุไว้บนยอดเขาลุกหนึ่งชื่อว่าดอยเกิ้ง (ดอยฉัตร)และได้สร้างวัดรวม 99 วัด วัดพระเจ้าโท้วัดเก่าสร้างในสมัยจามเทวีนอกจากนั้นเมื่อปี.. 2513 มีผู้ขุดพบพระรอดบังภัยมีศิลปะแบบปาละเทียบได้กับพระบางวัดดอนแก้วลำพูนมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 17 บ่งชี้ถึงศิลปะเมืองฮอดก็เก่าถึงสมัยหริภุญไชย


จากหลักฐานในเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์เหม็งหลายชิ้นที่ขุดพบในวัดเจดีย์สูงบอกชื่อจักรพรรดิสี่จงตรงกับ.. 2065-2110 เครื่องถ้วยจีนชิ้นที่เก่าที่สุดพบที่วัดศรีโขงมีอายุตรงกับสมัยจักรพรรดิสี่จงปีศักราชซ้วนเต็กตรงกับปี.. 1919-1978 การได้พบสิ่งของอื่นๆอีกจำนวนมากบอกอายุตรงกับสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนเป็นช่วงที่สมัยเชียงใหม่กำลังรุ่งเรืองทำให้รู้ว่าเมืองฮอดยังคงเป็นเมืองท่าค้าขายหรือผ่านพักของกลุ่มพ่อค้าก่อนที่จะนำสินค้าไปเมืองเชียงใหม่เชียงรายและพะเยา เมืองฮอดดำรงฐานะเป็นเมืองต่อมาอีกเป็นเวลายาวนานเมื่อสี่สิบปีก่อนข้าพเจ้าได้ทันเห็นการขุดค้นโบราณสถานและขุดค้นรวบรวมศิลปวัตถุของทางการครั้งนั้นด้วยเมื่อสายน้ำจากเขื่อนใหญ่ท่วมเข้ามาทำให้ชุมชนเมืองฮอดรวมทั้งศาสนสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต้องล่มสลายทำให้ศิลปะและงานฝีมือของเมืองฮอดถูกลืมเลือนไปจากผู้คนในยุคนี้เมื่อลมหายใจยังมีอยู่ศิลปะของเมืองฮอดยังคงได้รับการสืบทอดสานต่อ ที่นี่ไปอีกนาน



จากเว็ป http://board.palungjit.com/showthread.php?t=83960
 
โดย : สยามอาร์ต    [Feedback +6 -0] [+0 -0]   [ 11 ] Sun 23, Nov 2008 02:21:42

 
คนเหนือเข้าจะอธิบายให้คนไม่ค่อยมีวิชาในเรื่องนี้กระจ่างแจ้งหรือปล่าวนะ : พระล้านนา.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ ออกแบบเว็บไซต์โดย 2WinWeb design บริการรับทำเว็บไซต์
Copyright Pralanna.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย บริษัท พระล้านนาดอทคอม จำกัด.